ผักสวนครัวรั้วกินได้ การปลูกพืชผักสมุนไพร สำหรับใช้ในครัวเรือน นอกจากจะปลูกในสวน ในแปลง ในกระถาง หรือในภาชนะปลูกอื่น ๆ แล้ว พืชผักสมุนไพรหลายชนิดเราสามารถนำมาปลูกเป็นรั้วบ้านได้ ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นรั้ว คือ เครื่องล้อมกั้นเป็นเขตของบ้านที่มีความสวยงามดูแปลกตา แตกต่างไปจากรั้วบ้านชนิดอื่น ๆ แล้ว รั้วสมุนไพรยังให้ใบ ให้หน่อ ให้ผล ให้ดอก ให้เรานำไปเป็นอาหารและยารักษาโรคได้อีกด้วย
โดยทั่วไปพืชผักสมุนไพรที่ใช้ปลูกเป็นรั้วกินได้ มักใช้พืชผักสมุนไพรที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ทนต่อโรคและแมลงได้ดี เพียงแค่ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เป็นครั้งคราวก็สามารถเจริญเติบโต และตัดแต่งเป็นรั้วบ้านได้ตามที่เราต้องการ
การปลูกพืชผักสมุนไพรเป็น "รั้วกินได้" มีอยู่ 2 ประเภทคือ
1. รั้วที่ปลูกโดยพืชสมุนไพรยืนต้น ใช้พืชยืนต้นที่ให้หน่อ ใบ ดอก และผลเป็นอาหารและยารักษาโรค โดยนำมาปลูกเป็นแนวรั้วตามที่เราต้องการ พืชเหล่านี้มีลักษณะลำต้นตั้งตรง หรือ ทรงพุ่ม ยืนต้นอยู่ได้ด้วยตัวเอง สามารถตัดแต่งให้เป็นรั้วมีขนาดกว้างและสูงได้ตามต้องการ ได้แก่ |
| |
|
ใบอ่อนใช้แกงส้มรสเปรี้ยวกำลังดี กลีบเลี้ยงใช้ทำแยม เชื่อมตากแห้งหรือต้มกับน้ำ เติมน้ำตาลทำเป็นน้ำกระเจี๊ยบก็ได้ |
| |
|
ยอดอ่อนมีรสมันและหวานเล็กน้อยนิยมนำมาเป็นผักสดหรือผักจิ้ม แกล้มแกงเผ็ด ส้มตำ ยำ ขนมจีน ฯลฯ |
| |
|
ยอดอ่อนนำมาดองเกลือ ตากแดดทิ้งไว้ 2- 3 วัน ใบอ่อนจะนิ่ม ยอดอ่อนจะกรอบและมีรสเปรี้ยว นำมารับประทานเป็นผักจิ้ม หรือนำไปผัดหรือแกงส้ม |
| |
|
ดอกตูมและใบอ่อนมีรสขม ก่อนปรุงอาหารจะต้องนำมาต้มแล้วเทน้ำทิ้ง 2- 3 ครั้ง เพื่อลดความขม นิยมทำแกงคั่วใส่กะทิ หรือกินเป็นผักจิ้มน้ำพริก |
| |
|
ใช้ดอกที่ยังไม่บานดึงเอาเกสรเพศเมียสีเหลืองอ่อนออกเพราะทำให้ขม ยอดอ่อน และฝักอ่อน นำมาจิ้มเป็นผักสดหรือต้มลวกก็ได้ หากราดด้วยน้ำกะทิจะข่วยให้มีรสชาติดีขึ้น นอกจากนี้ดอกยังนำไปปรุงใส่แกงส้ม แกงคั่ว แกงจืด หรือผัดกับกุ้งได้ |
| |
|
ใช้ใบเพสลาดต้มกับปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว รับประทานหรือจะนำมาปรุงเพิ่มตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู น้ำมะนาว เป็นต้มยำก็ได้ จะได้รสชาติแปลกกว่าต้มยำโดยทั่วไป |
| |
|
ยอดนำมาเป็นผักจิ้มขณะสด หรือปรุงโดยทำชะอมชุบไข่ทอด ผัดใส่ไข่ การลวกหรือต้มแล้วราดด้วยกะทิ และยังสามารถนำมาเป็นผักใส่แกงป่าและแกงคั่ว |
| |
|
ดอกต้มกินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือเก็บดอกมาดองเกลือ 1 คืน รุ่งขึ้นใส่น้ำซาวข้าวหรือน้ำมะพร้าวห้าว หมักทิ้งไว้ 2 คืน จะมีรสเปรี้ยวนำมาเป็นผักเคียงจิ้มน้ำพริกได้ ไม่ควรกินเกิน 2-3 ดอก เพราะมีฤทธิ์เป็นยาถ่าย |
| |
|
ใบ และยอดอ่อน ลวกจิ้มน้ำพริก หรือใช้ห่อเมี่ยงคำ |
| |
|
ใช้ยอดอ่อนมาใส่แกงคั่ว เช่นแกงคั่วฟักทอง แกงคั่วแฟง เพื่อให้มีรสเผ็ดและฉุน สำหรับใบเพสลาดและใบแก่นำมาตำน้ำพริก จะทำให้น้ำพริกมีรสฉุนเหมือนน้ำพริกแมงดา |
| |
|
ยอดอ่อน นิยมนำมาลวกหรือต้มราดกะทิเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือแกงคั่ว นอกจากนี้ยังนำมาใส่แกงเลียง แกงจืดหมูสับ แกงป่าก็ได้ |